เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (3 มี.ค. 66) ตำรวจกองปราบปราม เปิดปฏิบัติการตรวจค้น บ้านและบริษัท เครือข่ายสารวัตรซัว ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จับผู้ต้องหาตามหมายได้ 6 คน 1 ในนั้นเป็นคนสนิท "สารวัตรซัว"
ปฏิบัติการนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ 6 โมงเช้า ตำรวจกองปราบปราม พร้อมกำลังตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกว่าร้อยนาย นำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 63 แห่ง ใน 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี
เป้าหมายหลัก คือ บ้านของ รวมถึงพันตำรวจโท วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ "สารวัตรซัว" อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่ตั้งอยู่ภายในซอยรามอินทรา 5 แยก 15 ตั้งอยู่ติดกับบริษัทเป็นต่อ กรุ๊ป ตัวบ้านเป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีกำแพงสูงกว่า 3 เมตรล้อมรอบ ภายในบ้านมีแต่แม่บ้าน จากนั้นตำรวจได้แสดงหมายค้นแล้วเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ขณะที่บริษัท เป็นต่อ กรุ๊ป เป็นอาคารสูง 6 ชั้น มีพนักงานทำงานอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่ก็เข้าตรวจสอบเช่นเดียวกัน
และอีก 1 เป้าหมายสำคัญ ย่านรามอินทรา คือ บ้านของ "จิ๋ว" เป็น 1 ในคนสำคัญ ของเครือบริษัท "เป็นต่อ กรุ๊ป" อยู่ในหมู่บ้านชวนชื่น ย่านบางเขน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรถเมอร์เซเดสเบนซ์ และ ออดี้ จอดอยู่หน้าบ้าน 2 คัน ภายในบ้านมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยตุ๊กตา bearbrick ของสะสมมีราคา ที่ห้องนอนยังพบตู้เซฟ 1 ตู้ นาฬิกาหรู และสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก ตำรวจอายัดไว้ตรวจสอบ ส่วนบริเวณชั้นล่างถูกต่อเติมเป็นห้องเลี้ยงแมว
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า นายจิ๋ว เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารบริษัทในเครือเป็นต่อกลุ่มมากถึง 6 แห่ง แบ่งเป็น 4 บริษัทที่ยังดำเนินการอยู่ ประกอบด้วย บริษัท เป็นต่อ เอสเตท จำกัด, บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด, บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เชนจ์ 2 จำกัด และ บริษัท พีทีจี ซอฟต์แวร์ จำกัด ส่วนอีก 2 แห่ง แจ้งเลิกกิจการไปแล้ว ได้แก่ บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เป็นต่อ ทรานสปอร์ต บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด
ซึ่งปฏิบัติการวันนี้ ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 14 หมาย รวมถึง สารวัตรซัว และนายจิ๋ว แต่ทั้ง 2 คนนี้ถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงประชาชน กรณีหลอกแอร์โฮสเตสสาวมาลงทุน และนาย จิ๋ว ยังเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีฐานชักชวนค้าประเวณีเมื่อปี 2554 ด้วย ส่วนผู้ต้องหาอีก 12 คน ก็โดนหมายจับแตกต่างกันไป ตามแต่ว่าใครเคยมีคดีค้างเก่าเรื่องอะไร ซึ่งในวันนี้ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 6 คน และทั้ง 6 คนนี้ มีความเกี่ยวข้องกับ "สารวัตรซัว"
การตรวจค้นในครั้งนี้ตำรวจต้องการค้นหาหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางทางการเงิน รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องในเครือเป็นต่อกรุ๊ป รวมถึงจะมีการถอด เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดของทุกสถานที่ที่เข้าตรวจค้นในวันนี้ เพื่อไปตรวจสอบไทม์ไลน์การเข้าออกของบุคคลที่อยู่ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ruangden/337226
-------------------
เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 3 มีนาคม 2566
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น.
#เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News )
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com
facebook : https://www.facebook.com/3Plusnews
Twitter : https://twitter.com/3Plusnews
YouTube : https://www.youtube.com/c/3PlusNews
Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews
ปฏิบัติการนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่ 6 โมงเช้า ตำรวจกองปราบปราม พร้อมกำลังตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกว่าร้อยนาย นำหมายศาลอาญาเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 63 แห่ง ใน 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ จันทบุรี ชลบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี
เป้าหมายหลัก คือ บ้านของ รวมถึงพันตำรวจโท วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ "สารวัตรซัว" อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่ตั้งอยู่ภายในซอยรามอินทรา 5 แยก 15 ตั้งอยู่ติดกับบริษัทเป็นต่อ กรุ๊ป ตัวบ้านเป็นอาคารสูง 4 ชั้น มีกำแพงสูงกว่า 3 เมตรล้อมรอบ ภายในบ้านมีแต่แม่บ้าน จากนั้นตำรวจได้แสดงหมายค้นแล้วเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ขณะที่บริษัท เป็นต่อ กรุ๊ป เป็นอาคารสูง 6 ชั้น มีพนักงานทำงานอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่ก็เข้าตรวจสอบเช่นเดียวกัน
และอีก 1 เป้าหมายสำคัญ ย่านรามอินทรา คือ บ้านของ "จิ๋ว" เป็น 1 ในคนสำคัญ ของเครือบริษัท "เป็นต่อ กรุ๊ป" อยู่ในหมู่บ้านชวนชื่น ย่านบางเขน เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรถเมอร์เซเดสเบนซ์ และ ออดี้ จอดอยู่หน้าบ้าน 2 คัน ภายในบ้านมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยตุ๊กตา bearbrick ของสะสมมีราคา ที่ห้องนอนยังพบตู้เซฟ 1 ตู้ นาฬิกาหรู และสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก ตำรวจอายัดไว้ตรวจสอบ ส่วนบริเวณชั้นล่างถูกต่อเติมเป็นห้องเลี้ยงแมว
จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า นายจิ๋ว เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารบริษัทในเครือเป็นต่อกลุ่มมากถึง 6 แห่ง แบ่งเป็น 4 บริษัทที่ยังดำเนินการอยู่ ประกอบด้วย บริษัท เป็นต่อ เอสเตท จำกัด, บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด, บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เชนจ์ 2 จำกัด และ บริษัท พีทีจี ซอฟต์แวร์ จำกัด ส่วนอีก 2 แห่ง แจ้งเลิกกิจการไปแล้ว ได้แก่ บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท เป็นต่อ ทรานสปอร์ต บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด
ซึ่งปฏิบัติการวันนี้ ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 14 หมาย รวมถึง สารวัตรซัว และนายจิ๋ว แต่ทั้ง 2 คนนี้ถูกออกหมายจับในคดีฉ้อโกงประชาชน กรณีหลอกแอร์โฮสเตสสาวมาลงทุน และนาย จิ๋ว ยังเคยมีประวัติถูกดำเนินคดีฐานชักชวนค้าประเวณีเมื่อปี 2554 ด้วย ส่วนผู้ต้องหาอีก 12 คน ก็โดนหมายจับแตกต่างกันไป ตามแต่ว่าใครเคยมีคดีค้างเก่าเรื่องอะไร ซึ่งในวันนี้ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 6 คน และทั้ง 6 คนนี้ มีความเกี่ยวข้องกับ "สารวัตรซัว"
การตรวจค้นในครั้งนี้ตำรวจต้องการค้นหาหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางทางการเงิน รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของทุกบริษัทที่เกี่ยวข้องในเครือเป็นต่อกรุ๊ป รวมถึงจะมีการถอด เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดของทุกสถานที่ที่เข้าตรวจค้นในวันนี้ เพื่อไปตรวจสอบไทม์ไลน์การเข้าออกของบุคคลที่อยู่ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/ruangden/337226
-------------------
เรื่องเด่นเย็นนี้ วันที่ 3 มีนาคม 2566
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ 16.30 - 18.00 น.
#เรื่องเด่นเย็นนี้ (Ruangden News )
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com
facebook : https://www.facebook.com/3Plusnews
Twitter : https://twitter.com/3Plusnews
YouTube : https://www.youtube.com/c/3PlusNews
Tiktok : https://www.tiktok.com/3plusnews
- Kategori
- Finance and Crypto
Henüz yorum yapılmamış. İlk yorumu siz yapın.