Bu video, orijinal YouTube API’si ile ilgili videonun farklı sitelerde paylaşımına izin verildiği için, burada yayınlanmaktadır. Videonun buradan izlenmesi, YouTube'daki izlenme adetlerinde sayılmaktadır. Varsa, videodaki videoiçi reklamlardan video sahipleri gelir elde edebilirler.
Videonun sahibi iseniz ve videonuzun burada yayınlanmasını istemiyorsanız, YouTube Video Panelinden ilgili videonun API paylaşımını kapatmanız halinde, videonuz yayından otomatik olarak kalkacaktır.
This video is published here with official YouTube API as it is allowed to be published. All views and in-video ad clicks are being counted for video owner. If you want this video to be removed from here, you can uncheck API allowance from YouTube video settings and it will be removed automatically.

หอการค้าฯ เตือนนโยบายขึ้นค่าแรง 450 บาท เสี่ยงธุรกิจชะงัก - ต่างชาติย้ายฐานผลิต | TOP HIGHLIGHT

30
Skip (8)
32 İzlenme
Published
“ดร.พจน์” เตือนนโยบายขึ้นค่าแรง 450 บาทต่อวัน กระทบภาคการลงทุนอย่างรุนแรง หวั่นทำนักลงทุนต่างชาติย้ายฐานลงทุนไปประเทศอื่น เพิ่มต้นทุนผู้ประกอบการ มองแรงงานต่างด้าวได้ประโยชน์มากกว่าแรงงานไทย ชี้ควรเพิ่มทักษะฝีมือเพื่อได้รับค่าแรงสูงขึ้น แนะภาคการเมือง ต้องหารือทุกฝ่ายเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “อย่ามาตัดขาตัวเอง” ด้วยนโยบายการเมือง

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการแรงงานและพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยกับทีมข่าว TOP NEWS ถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน โดยมีผลทันที และจะมีการปรับขึ้นทุกปีตามค่าครองชีพและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ของแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคก้าวไกล ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับทุกท่านที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา เป็นว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

โดยหอการค้าในเรื่องของค่าแรงของแรงงานนั้น ได้มีจุดยืนที่ชัดเจนมาตั้งแต่รัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงรัฐบาลคสช.ว่า ในการปรับค่าแรงทั้งหมดจำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับข้อกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานของไทย และ สอดคล้องกับองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ซึ่งใน ทางกฎหมายมีความชัดเจน คือ ความจำเป็นของการปรับค่าแรงในแต่ละพื้นที่ที่จะต้องไม่เท่ากัน เพราะสภาพ สังคมเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงความสามารถในการทำรายได้ของแต่ละจังหวัด รวมถึงได้มีหน่วยงานไตรภาคีภาคแรงงานของจังหวัด ซึ่งประกอบด้วย นายจ้าง – ลูกจ้างและหน่วยงานราชการ ที่จะมีการประชุมร่วมกันก่อนจะมีการปรับค่าแรงในแต่ละครั้ง ว่า ในแต่ละจังหวัดได้ประสบปัญหาใดบ้าง เศรษฐกิจหลักของแต่ละจังหวัดคืออะไร ซึ่งไม่เหมือนกันทุกจังหวัด

โดยจะมองถึงความจำเป็นในแต่ละจังหวัดก่อนจะพิจารณาออกมาว่า จะมีการปรับค่าแรงหรือไม่ และปรับในอัตราเท่าใด หรือไม่ปรับ ก่อนจะแจ้งกลับมาที่ส่วนกลางเพื่อพิจารณาให้รอบด้านอีกครั้ง เพื่อให้แรงงานอยู่ได้ โดยการนำตัวเลข 10 ดัชนี เช่น เงินเฟ้อ ค่าครองชีพ ดอกเบี้ย พลังงาน ค่าไฟ น้ำมัน เป็นต้น เพื่อนำมาเปรียบเทียบให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจของไทย

“เงินเฟ้อ เป็นตัวสำคัญมากที่มีการชี้ให้เห็นว่า ควรปรับประมาณเท่าไหร่ หอการค้าฯ เรายืนยันในจุดนี้ ว่า เราสนับสนุนสิ่งที่เป็นไปตามกฎหมาย , ตามพ.ร.บ. และตาม ILO โลก (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ) โดยหอการค้าฯ ได้มีการกล่าวไปหลายครั้งตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ว่านโยบายเรื่องค่าแรง นำมาใช้เป็นการหาเสียงค่อนข้างอันตรายมาก เนื่องจากเป็นสิ่งที่เปราะบางมากกับโครงสร้างเศรษฐกิจ การขึ้นค่าแรงโดยที่ไม่มีตัวที่อ้างอิงได้ตามกฎหมาย หรือวิธีขึ้น จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อนักลงทุนที่ลงไปแล้ว และนักลงทุนทั้งไทยและเทศที่กำลังจะมาอยู่ หรือกำลังจะลงทุนอยู่ เพราะถ้าไม่มีมาตรฐานในการขึ้นค่าแรงที่จับต้องได้ กลายเป็นว่า นักลงทุนมาก็ไม่รู้ว่า เดี๋ยวคนต่อไปจะปรับเท่าไหร่ มันไม่มีหลักการของมัน เพราะฉะนั้น จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อการลงทุนมาก สำหรับการลงทุนใหม่ ขณะที่ นักลงทุนรายเดิมที่ลงทุนอยู่ในประเทศไทย จะเป็นการเพิ่มภาระในเรื่องของค่าใช้จ่ายให้เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ”

ดร.พจน์ ระบุว่า ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมนั้น เมื่อได้รับผลกระทบ อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปใช้ AI หรือ โรบอท แทนการจ้างงานคนได้ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะภาคบริการ ภาคการท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอี ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการปรับขึ้นค่าแรง ไม่มีทางที่จะหลบหลีกได้เลย

โดยสมมุติว่า ค่าแรงได้ปรับขึ้นมาเป็น 450 บาทต่อวัน จากปัจจุบันประมาณ 350 บาทต่อวัน ส่งผลให้มีส่วนต่างค่าแรงสูงขึ้น 100 บาทต่อวัน คิดเป็นเกือบ 30% ของค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการปรับเพิ่มที่สูงมาก จนอาจทำให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ตั้งรับไม่ทัน และอาจจะต้องปิดกิจการลงในที่สุด จึงขอให้พรรคที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลได้คำนึงถึง ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยอย่างรุนแรง ที่มีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวและบริการที่จะต้องใช้แรงงานคนเป็นหลัก

ดร.พจน์ ระบุอีกว่า ในส่วนของแรงงานไทยในปัจจุบันที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้นมีจำนวนที่น้อยมาก อีกทั้งประชาชนวัยทำงานก็ค่อนข้างที่จะลดน้อยลง จึงทำให้ไทยต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวเป็นหลัก อีกทั้งในส่วนของแรงงานไทยบางส่วนได้มีการยกระดับโดยการผ่านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ดังนั้น ในส่วนของรัฐบาลใหม่จึงจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบในการเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานไทยให้มีความชำนาญในระดับที่สูงขึ้น เพื่อให้ได้รับค่าแรงที่สูงขึ้น

อ่านต่อ : https://www.topnews.co.th/news/706027

#ก้าวไกล #พิธา #เศรษฐกิจ #ขึ้นค่าแรง450 #ค่าแรงขึ้นต่ำ

--------------------------------------------------------------------------

YOUTUBE : https://bit.ly/YoutbTopTV
FACEBOOK : https://bit.ly/FBTOPTV
LINE : bit.ly/LINExTOPTV
IG : https://bit.ly/3B3Ktsj
TWITTER : https://bit.ly/TWTOPTV
.
.
WEBSITE : https://www.topnews.co.th
APP TOP NEWS : http://onelink.to/c68pbd
.
.
ติดตามเราได้จากช่อง กล่อง PSI, INFOSAT, GMMZ, CSAT, TIK , 3BB, TOT
ช่อง 77 : กล่อง PSI, INFOSAT, GMMZ, CSAT, TIK , 3BB, TOT
ช่อง 658 : กล่อง AIS
ช่อง 210 : IPM
.
.
ติดต่อโฆษณา
[email protected]
Kategori
Finance and Crypto
Henüz yorum yapılmamış. İlk yorumu siz yapın.